"ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเป็นคนที่เปิดทางให้กับคนอื่น ๆ หรือไม่ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันก็คงรู้สึกดีใจมาก เรามีนางแบบที่เป็นคนข้ามเพศและพวกเราก็แสดงฝีมือให้เห็นแล้วว่าความสามารถต่างหากที่เราต้องใช้ในการทำงาน ไม่ใช่เพศ"
"ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเป็นคนที่เปิดทางให้กับคนอื่น ๆ หรือไม่ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันก็คงรู้สึกดีใจมาก เรามีนางแบบที่เป็นคนข้ามเพศและพวกเราก็แสดงฝีมือให้เห็นแล้วว่าความสามารถต่างหากที่เราต้องใช้ในการทำงาน ไม่ใช่เพศ"
ผู้ที่ร่วมก้าวไปกับเรา
เมื่อ นลิน เสถียรุจิกานนท์ กล่าวถึงตัวเองว่าเป็น “ผู้มีความสร้างสรรค์และความหลงใหลในด้านที่หลากหลาย” เธอไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นนางแบบแล้ว เธอยังเป็นนักถ่ายภาพ และนักออกแบบที่มีแบรนด์แฟชั่นสุดล้ำของตัวเองอย่างแบรนด์ Nalinchan Studio และเธอยังมีส่วนในการช่วยกำหนดนิยามใหม่ให้กับการท่องราตรีในประเทศไทยร่วมกับกลุ่ม Cayenne Peppers อีกด้วย “ฉันเป็นคนที่ชอบลองอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ" เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันพยายามที่จะไม่สร้างขีดจำกัดอะไรในชีวิตเลย"
ในที่สุด เธอก็ได้รับความสนใจจากไดเรคเตอร์ระดับท็อปของวงการและได้รับการติดต่อให้มาร่วมงานที่เปลี่ยนชีวิตของเธอ “ฉันกลายเป็นคนข้ามเพศคนแรกที่ไม่ใช่คนดังที่ได้ร่วมงานแฟชั่นโชว์ชั้นนำของไทยในฐานะนางแบบ" เธอกล่าว และตอนนี้ นลิน ก็กำลังส่งต่อสิ่งเดียวกันให้กับคนอื่น ๆ ด้วยการเปิดอินสตาแกรมสรรหาผู้คนจากท้องถนนเข้าสู่วงการ โดยเน้นกลุ่มคนที่มี “ความหลากหลาย” และ “กลุ่มทางเลือก” เธอบอกว่า “ฉันอยากมอบโอกาสอันน่าอัศจรรย์ที่ฉันเคยได้รับให้กับคนอื่นด้วยเช่นกัน"
ในสหรัฐฯ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้เปิดตัวโครงการ ‘First Strides’ ซึ่งเฉลิมฉลอง สร้างแรงบันดาลใจ และช่วยให้ผู้คนรวมถึงองค์กรต่าง ๆ ก้าวอย่างกล้าหาญเพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมไปข้างหน้าสำหรับทุกคน โดยได้ลงทุนในผู้บุกเบิกทางวัฒนธรรมผ่านการให้ทุนสนับสนุน ให้การมองเห็น ให้คำปรึกษา และจัดให้มีโครงการเสริมสร้างพลัง
นลิน รู้สึกผูกพันกับแคมเปญ Keep Walking อันโด่งดังของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ นี้อย่างมาก “ก้าวต่อไปและทำต่อไป นี่คือวิธีคิดของฉันเลยล่ะ" เธอกล่าว “หวังว่าการทำสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ที่อาจจะกำลังเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันหรือกำลังมองหาประสบการณ์ชีวิตที่คล้ายกับฉันได้"
และการเดินทางอันน่าทึ่งของนลินก็สร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก ชีวิตของเธอในช่วงวัยรุ่นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเลดี้ กาก้า ผู้ก้าวเข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการเพลงป๊อปด้วยแฟชั่นสุดแหวกแนวพร้อมการสื่อสารในเชิงบวกกับชาว LGBTQIA+ อันลึกซึ้งกินใจ “เธอสอนฉันว่าการกล้าที่จะแตกต่างและการเป็นตัวของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ปกติ” นลินกล่าวในฐานะคนข้ามเพศ และเลดี้กาก้ายังทำให้เธอเห็นด้วยว่า “การเป็นผู้หญิงนั้นสามารถเป็นได้หลายแบบ" ในช่วงสิบปีก่อนเมื่อนลินเริ่มเรียนทางด้านแฟชั่น ความคิดที่จะหารายได้จากการเดินแบบนั้นเป็นเรื่องที่เกินเอื้อมมาก “เมื่อตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มีนางแบบที่เป็นคนข้ามเพศ" เธอกล่าว “มีเกย์หรือคนข้ามเพศหลายคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นจะอยู่ในวงการตลกหรือทีวีมากกว่า"
อย่างไรก็ดี เมื่อมีเพื่อน ๆ มาชักชวนให้ไปเป็นนางแบบในโปรเจกต์ถ่ายภาพ นลินก็ไม่เคยปฏิเสธ "ฉันรู้สึกสนุกมาก" เธอนึกย้อนกลับไป "แต่ก็ยังไม่รู้สึกมีแรงบันดาลใจที่จะเป็นนางแบบนักเพราะในตอนนั้นฉันรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้"
นลิน สนับสนุนการนำเสนอความหลากหลายผ่านค่ำคืนในคลับที่เธอร่วมกับกลุ่ม Cayenne Peppers จัดขึ้นอย่างทุ่มเท ค่ำคืนเหล่านี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อราวห้าปีที่ผ่านมาและค่อย ๆ พัฒนาขึ้นจนเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นตัวเองได้ “ตอนนั้นฉันไม่ค่อยเห็นดีเจที่เป็นคนข้ามเพศมากนัก พวกเราก็เลยจัดปาร์ตี้ขึ้นมาให้พวกเขามาแสดง” เธอกล่าว “เราไม่ได้มองหาโปรดักชั่นที่สร้างสรรค์อะไรมาก เราแค่อยากให้ค่ำคืนเหล่านั้นเป็นค่ำคืนที่ปราศจากการตัดสินกัน” นลินบอกว่าเธอรู้สึกภูมิใจอย่างมากทุกครั้งที่ได้มองไปรอบ ๆ แล้วเห็นว่า “ทุกคนดูสบายใจกับสิ่งที่พวกเขาสวมใส่และสิ่งที่พวกเขาเป็น”
สำหรับในอนาคต นลินยังคงจุดมุ่งหมายที่จะ "ก้าวต่อไป" ในวันข้างหน้า เธอกล่าวว่า "ฉันเป็นคนที่จะคิดเสมอว่าวันนี้จะทำอะไร ต่อให้สิ่งนั้นจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ หรือจะเป็นการค้นคว้าหาข้อมูลสำหรับโปรเจกต์ของฉันก็ตาม ฉันอยากทำงานด้านออกแบบ ถ่ายภาพ และจัดปาร์ตี้ต่อไป แน่นอนว่าฉันต้องการทำทั้งหมดนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งที่เราสามารถร่วมกันเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้"
